คุณพร้อมหรือยัง..? ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลี้ยงสุนัข

           เชื่อว่า คำถามนี้ สำหรับหลายๆคน ที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัข และเชื่อว่าต้องเกิดคำถามี่ว่าขึ้นในใจแน่ๆ หรือบางครั้งที่คุณบอกคนที่บ้านว่าคุณอยากเลี้ยงสุนัข ก็มักจะถูกถามขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ หรือ แฟน ว่าวันนี้พร้อมแล้วหรอ? คิดดีแล้วหรอ?  โน้นนี่นั่น เสมอ

สิ่งที่ต้องคำนึงถึง มีดังนี้

 1. ช่วงเวลาที่สุนัขจะอยู่กับเรา
    เนื่องจากสุนัขมีอายุยืนยาวไม่เท่ากันในแต่ละสายพันธุ์ส่วนใหญ่แล้วสายพันธุ์เล็กๆเช่น Pomperanian, Shih Tzu ,Poodle เป็นต้น  มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15-16 ปี ซึ่งมักจะมีอายุยืนกว่า สนุขพันธุ์กลางๆเช่น 

Gloden Retriever ซึ่งมีอายุเฉลี่ย ประมาณ 10-13 ปี ขณะที่สุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น Mastiff หรือ Great Dane จะมีอายุเฉลี่ย เพียงแค่ 7-8 ปีเท่านั้น

2. บริเวณบ้าน 

  ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่เลือกเลี้ยง หากเป็นสายพันธุ์เล็กๆ ก็จะใช้เนื้อที่น้อย สามารถเลี้ยงในบริเวณบ้่นเพียงเล็กน้อย  แต่หากเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ๆ เขาต้องการพื้นที่ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีสุขภาพดี ดังนั้นจึงสำคัญมากสำหรับคนที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่

3. ค่าใช้จ่าย

    ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย มักเกิดขึ้นในระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันการเลี้ยงสุนัขเป็นที่นิยมการอย่างแพร่หลาย จึงเป็นที่มาของอาหาร ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำหรับสุนัขต่างก็มีมาให้เลือกซื้อไม่น้อย 

 

ตัวอย่างค่าอาหารของสุนัข

• สำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก  เฉลี่ยแล้วประมาณ 50-80 บาท/วัน หรือใน1ปี จะต้องเสียค่าใช้จ่าย ประมาณ 18250-29200บาท 
• สำหรับสุนัขพันธุ์กลางๆ เฉลี่ยประมาณ100-200บาท/วัน หรือใน1ปีจะต้องเสียค่าใช้จ่าย36,500-73,000 บาท 
• สำหรับสนุขพันธุ์ใหญ่ เฉลี่ยประมาณ 200-400 บาท/วัน หรือใน1ปี จะต้องเสียค่าใช้จ่าย73,000- 146,000 บาท

ยังไม่รวมค่าอื่นๆ เช่น ค่าของเล่น ของใช้อื่นๆ ค่าดูแลรักษายามเจ็บป่วย เป็นต้น

4. มูลและของเสีย

  บ่อยครั้งที่พบว่า คุณหนูๆทั้งหลายเป็นผู้ขอเลี้ยง แต่คุณ พ่อ แม่ เป็นผู้อาบน้ำ  ให้เก็บอึ เก็บฉี่ให้    การเลือกเลี้ยงสุนัขไม่ใช่แค่การหาที่อยู่ให้เขา ให้อาหารเขา หรือเล่นกับเขาเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึง เวลาเขาขับถ่าย เราจะสามารถเก็บได้ไหม ? ทำความสะอาดได้ไหม? ถ้าทำได้ก็ถือว่าท่านสามารถเลี้ยงสุนัขได้

5. การดูแลรักษา

   เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิต นอกจากการให้อาหาร การให้ที่พัก  เก็บของเสียของเขาแล้ว ยังจำเป็นที่จะดูรักษาเขาให้เหมาะสมด้วย  เช่น การพาเขาไปออกกำลังกาย   เล่นกับเขา อาบน้ำให้เขา ให้เวลากับเขา และยังรวมไปถึงการพาเขาไปหาคุณหมอทั้งที่ตอนปกติ เช่น พาไปทำวัคซีน ถ่ายพยาธิ ตรวจสุขภาพประจำปีตามที่คุณหมอนัด และถ้าหากเขาป่าว ไม่สบาย ก็จะต้องพาเขาไปรักษา ซึ่งหลายครั้งที่โรคร้าย อาจทำให้เขาไม่น่ารัก เช่น ท้องเสียถ่ายเรี่ยราด ชักน้ำลายฟูม ปัญหาโรคผิดหนัง ขนร่วง ปัญหาเห็บหมัด  อื่นๆอีกมากมาย  แล้วคุณจะสามารถทนกับสภาพที่เขาเป็นอยู่ได้หรือไม่  รักเขาเหมือนเดิมไหม

จากหัวข้อเหล่านี้ หากคุณสอบผ่านทุกข้อข้างต้นแล้ว  คุณก้อพร้อมที่จะพาเขามาอยู่บ้านกับคุณได้แล้ว 

รูปและข้อมูล

http://www.odaijinipet.com/read_content.php?content_id=0000040